เมื่อเด็กเล็กหรือผู้ที่มีอายุน้อยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเรื้อรังหรือโรคร้ายที่มีอาการรุนแรง อาจเป็นเรื่องที่หนักใจสำหรับทั้งเด็กและครอบครัว ทั้งยังมีผลกระทบทางร่างกาย อารมณ์ และการเงินจากการจัดการภาวะสุขภาพเรื้อรังอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องหรือครอบครัว supportive care จึงเปรียมเสมือนทางออกอันมีค่าที่สามารถช่วยจัดการกับอาการ ปรับปรุงคุณภาพชีวิต และให้การสนับสนุนทางอารมณ์แก่เด็กและครอบครัวได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้ เราจะพามาสำรวจ supportive care สำหรับเด็กที่มีภาวะสุขภาพเรื้อรังกัน
Supportive care เป็นวิธีการรักษาทางการแพทย์ที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่มีโรคร้ายแรง รวมถึงเด็กที่มีภาวะสุขภาพเรื้อรัง โดย supportive care จะมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการและความเป็นอยู่โดยรวมของผู้ป่วย การดูแลประเภทนี้จะสามารถตอบสนองความต้องการทางร่างกาย อารมณ์ และจิตวิญญาณของเด็กและครอบครัวได้ดี เป้าหมายของ supportive care คือการให้การดูแลและการสนับสนุนอย่างครอบคลุมที่เสริมการรักษาทางการแพทย์และการบำบัดอื่น ๆ
supoortive care สำหรับเด็กที่มีภาวะสุขภาพเรื้อรังมักประกอบด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้
- การจัดการความเจ็บปวดและอาการ
เด็กที่มีภาวะสุขภาพเรื้อรังมักมีอาการปวดและอาการอื่นๆ เช่น เหนื่อยล้า คลื่นไส้ และวิตกกังวล การดูแลแบบประคับประคองมีรูปแบบต่างๆ ของการจัดการความเจ็บปวดและการบรรเทาอาการ เช่น การใช้ยา supportive care และการรักษาเฉพาะทาง
- การสนับสนุนทางอารมณ์และจิตใจ
การรับมือกับภาวะสุขภาพเรื้อรังอาจส่งผลกระทบทางอารมณ์และจิตใจต่อทั้งเด็กและครอบครัว supportive care สามารถให้การสนับสนุนทางอารมณ์และจิตใจแก่เด็กและครอบครัวของพวกเขาผ่านการให้คำปรึกษา กลุ่มสนับสนุน และการประสานงานการดูแล
- supportive care และการดูแลที่บ้านพักรับรอง
supportive care และการดูแลที่บ้านพักรับรองจะสามารถมอบ supportive care เฉพาะสำหรับเด็กที่มีภาวะร้ายแรงหรือมีข้อจำกัดในชีวิต โปรแกรมเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองความต้องการทางร่างกาย อารมณ์ และจิตวิญญาณของเด็ก ในขณะที่ให้ความสะดวกสบายและจัดทำแผนการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่เห็นอกเห็นใจและละเอียดอ่อนต่อความต้องการของเด็ก
- การสนับสนุนด้านโภชนาการ
เด็กที่มีภาวะสุขภาพเรื้อรังอาจเสี่ยงต่อภาวะขาดโภชนาการ ปัญหาทางเดินอาหาร และภาวะแทรกซ้อนทางอาหารอื่นๆ ที่อาจขัดขวางการฟื้นตัว โดย supportive care สามารถให้การสนับสนุนด้านโภชนาการได้เป็นอย่างดี เช่น การให้คำปรึกษาด้านอาหาร อาหารทางการแพทย์หรืออาหารเสริม หรือการให้อาหารทางสายยาง
จะเห็นว่า supportive care สำหรับเด็กที่มีอาการป่วยรุนแรงนั้นเป็นเรื่องที่ครอบครัวหรือผู้ดูแลควรพิจารณาและใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะ supportive care ถือเป็นการสนับสนุนเรื่องความรุนแรงของอาการเหล่านี้ของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการปลุกขวัญกำลังใจของฝั่งครอบครัวและตัวเด็กเองด้วย
